"ทรัมป์" เข้ามอบตัวแล้ว ยืนกรานไม่ยอมรับผิดต่อทุกข้อกล่าวหา

0 0
Read Time:6 Minute, 16 Second

โดยทรัมป์ ได้ยืนกรานต่อศาล ไม่ยอมรับผิดในทุกข้อกล่าวหา ก่อนจะออกมายืนยันว่า เขามีสิทธิ์ทุกประการในการนำเอกสารความมั่นคงชั้นความลับกลับไปเก็บที่บ้าน และประกาศว่าความพยายามดำเนินคดีเขาในข้อหาเหล่านี้คือการกลั่นแกล้งทางการเมือง และเขาจะเอาคืนหากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง

เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. ของเช้าที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย ขบวนรถของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกจากโรงแรมและสนามกอล์ฟที่มีชื่อว่า Trump National Doral Property ในรัฐฟลอริดา

“โดนัลด์ ทรัมป์” ถึงฟลอริดาแล้ว เตรียมมอบตัวต่อศาล

“ทรัมป์” ปฏิเสธทุกข้อหา ปมให้เงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่

ซึ่งเขาใช้เป็นที่พักค้างคืนเพื่อเดินทางไปขึ้นศาลแขวงของรัฐบาลกลางในนครไมอามีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ขณะที่บริเวณหน้าศาล มีบรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์หลายร้อยคนไปรอให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ อดีตผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ปรากฎตัวต่อหน้าผู้สนับสนุน โดยหลังลงจากรถ เขาตรงเข้าไปในตัวอาคารศาลทันที ในขณะที่สื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้ตามเข้าไปทำข่าวด้านใน

โดยปกติขั้นตอนการขึ้นศาลนัดแรก จะเริ่มด้วยการนำตัวผู้ถูกกล่าวหาบันทึกลายนิ้วมือและถ่ายรูปบันทึกประวัติอาชญากร หรือ Mug shot รวมถึงอาจมีการใส่กุญแจมือ ก่อนที่จะถูกนำตัวไปที่ห้องพิจารณาคดีเพื่อปรากฏตัวต่อหน้าผู้พิพากษา อย่างไรก็ตาม ในกรณีของทรัมป์ เขาถูกปฏิบัติแตกต่างออกไป

โฆษกส่วนตัวของทรัมป์ซึ่งได้ออกมาตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่รออยู่หน้าศาลได้ระบุว่า ทรัมป์เพียงแค่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่ไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือหรือถ่ายรูปบันทึกประวัติอาชญากร โดยในระหว่างรับฟังข้อกล่าวหา ทรัมป์มีกำลังใจที่ดีหลังพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จ อดีตผู้นำสหรัฐฯ ถูกนำตัวไปที่ห้องพิจารณาคดีเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา

จากภาพสเก๊ตซ์ที่มีการเผยแพร่ออกมา อดีตผู้นำสหรัฐฯ อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ผูกเนคไทค์สีแดง ปรากฎตัวต่อหน้าผู้พิพากษาศาลแขวง โจนาธาน กู๊ดแมน โดยมีทนายความ 2 คนนั่งประกบ มีรายงานว่า สำนวนคำร้องมีความยาว 49 หน้า มีข้อกล่าวหาทั้งหมด 37 กระทง โดย 31 กระทงเป็นความผิดเกี่ยวกับการยึดเอกสารลับด้านความมั่นคง ซึ่งโทษจำคุกสูงสุดกระทงละ 10 ปี ส่วนที่เหลือเป็นความผิดเกี่ยวกับการปกปิดซ่อนเร้น และที่หนักที่สุดคือ พยายามขัดขวางกระบวนการยุติธรรมซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี โดยทรัมป์นั่งรับฟังศาลอยู่ประมาณ 45 นาทีก่อนที่จะปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาที่มีต่อเขา

หลังจากนั้น ทรัมป์ได้เดินทางออกจากศาลในทันที ในระหว่างที่ขบวนรถของทรัมป์ออกจากศาลได้มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย เพราะในขณะที่ผู้สนับสนุนทรัมป์ตะโกนให้กำลังใจพร้อมกับโบกธงให้ทรัมป์ซึ่งนั่งอยู่ในรถ ปรากฎว่ามีชายคนหนึ่งสวมชุดลายคล้ายนักโทษพยายามวิ่งเข้าไปใกล้กับขบวนรถก่อนที่ตำรวจจะสกัดจับไว้ได้

ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นคนที่พ้นตำแหน่งไปแล้วหรือยังอยู่ในตำแหน่งถูกดำเนินคดีอาญาจากรัฐบาลกลาง หรือ Federal Crime โดยจุดเริ่มต้นของคดีมาจากการที่ทรัมป์ได้นำเอาเอาสารเกี่ยวกับความมั่นคงที่เป็นชั้นความลับออกมาจากทำเนียบขาวหลังจากหมดวาระแล้ว เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในการทำคดีนี้ อัยการได้ใช้ลักษณะคำสั่งที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความผิดมากกว่าคำสั่งฟ้องแบบทั่วไป

ตามกฎหมายของสหรัฐฯ เมื่อประธานาธิบดีลงจากตำแหน่งจะต้องส่งคืนเอกสารและบันทึกของประธานาธิบดีทั้งหมดให้กับหอจดหมายเหตุแห่งชาติเพื่อเก็บรักษา อย่างไรก็ตาม หลังทรัมป์ลงจากตำแหน่งในเดือนมกราคมปี 2021 ทางหอจดหมายเหตุแห่งชาติแจ้งว่ามีเอกสารลับจำนวนหนึ่งหายไป กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ จึงเริ่มทำการสืบสวน

ก่อนที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2022 FBI ได้หมายศาลเข้าค้นบ้านพักของทรัมป์ในรัฐฟลอริดา และพบเอกสารมากกว่า 11,000 ฉบับวางกระจัดกระจายอยู่ตามห้องต่างๆ ทั่วบ้าน

ในบรรดาเอกสารเหล่านี้มีหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและถูกจัดให้อยู่ในระดับชั้นความลับสุดยอดรวมอยู่ด้วย เช่น รายงานที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและที่ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ แผนการป้องกันประเทศ แผนการโต้กลับ แผนจำลองยามศึกสงคราม รวมถึงเอกสารด้านความมั่นคงของ Five Eyes ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ 5 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร

ในช่วงนั้นทรัมป์ออกมาโจมตีถึงการดำเนินการของ FBI ว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง และประกาศว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะเอกสารทั้งหมดไม่ได้เป็นเอกสารลับอีกต่อไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในสำนวนฟ้องที่อยู่ในมือศาล ทางฝ่ายอัยการเจ้าของคดีมีหลักฐานเพื่อตีตกข้อกล่าวอ้างนี้ของทรัมป์

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายซึ่งเห็นสำนวนฟ้องระบุว่า การสั่งฟ้องครั้งนี้ทางอัยการได้ใช้คำสั่งฟ้องแบบที่เรียกว่า Speaking Indictment ซึ่งเป็นลักษณะคำสั่งที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความผิดมากกว่าคำสั่งฟ้องแบบทั่วไป เพื่อให้สาธารณะได้รู้ว่าการสั่งฟ้องคดีนี้เนื่องจากหลักฐานชัดเจน ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมืองหลักฐานลักษณะที่ว่าก็อย่างเช่น บันทึกเสียงการประชุมระหว่างทรัมป์กับทีมงานหาเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2021

โดยทรัมป์ซึ่งพลาดจากการเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่ 2 เนื่องจากแพ้เลือกตั้งให้กับโจ ไบเดน ได้โชว์เอกสารที่เขาระบุว่า เป็นแผนการรับมือกับการถูกโจมตีของกระทรวงกลาโหมให้กับคนในที่ประชุมดู

โดยในเทปบันทึกเสียง ทรัมป์ได้อวดอ้างว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารลับสุดยอด พร้อมกล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ที่เป็นประธานาธิบดี เขาสามารถ declassified หรือถอดชั้นความลับเอกสารชุดนี้ได้ แต่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้นเอกสารชุดนี้จึงยังเป็นเอกสารลับสุดยอดอยู่ ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าจะได้เห็นรายละเอียดสำนวนคดีหลังขึ้นศาลแล้ว ทรัมป์ยังออกมายืนยันว่า เขามีสิทธิ์ในการครอบครองเอกสารเหล่านั้น

โดยหลังจากที่ทรัมป์รับฟังข้อกล่าวหาเสร็จ เขาได้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวกลับไปที่รัฐนิวเจอร์ซี ก่อนที่จะเปิดแถลงข่าวยืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะในฐานะที่เป็นเคยประธานาธิบดี เขามีสิทธิ์ทุกประการในการนำเอกสารเหล่านั้นกลับไปเก็บไว้ที่บ้าน

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทรัมป์มักระบุว่า ความพยายามดำเนินคดีกับเขาเป็นการล่าแม่มด เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองจากคู่แข่งโดยเฉพาะประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อขัดขวางไม่ให้เขากลับมาลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

ในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยในระหว่างแถลงข่าว ทรัมป์ประกาศอีกครั้งว่าไม่มีอะไรที่จะหยุดเขาได้ และถ้าเขาได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง เขาจะมีการตั้งอัยการพิเศษขึ้นมาเพื่อเอาคืนไบเดน ถึงแม้จะเผชิญกับการถูกดำเนินคดีหลายคดีทั้งทั้งแพ่งและอาญา แต่ทรัมป์ยังคงมีคะแนนนิยมที่สูงให้หมู่คนที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน

ผลสำรวจของรอยเตอร์ อิปซอสล่าสุดซึ่งไปถามความเห็นของผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันพบว่า ร้อยละ 43 ต้องการให้ทรัมป์เป็นตัวแทนพรรคในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีหน้า ทิ้งห่างคู่แข่งที่สำคัญอย่าง รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาที่ได้ไปร้อยละ 22 ที่น่าสนใจคือ ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 80 เห็นว่าทรัมป์กำลังถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง

คาดการณ์กันว่า ทรัมป์อาจได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนของพรรคหากเขายังสามารถคงคะแนนความนิยมระดับนี้ได้ โดยการถูกดำเนินคดีจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือแม้แต่การเป็นประธานาธิบดีเพราะกฎหมายสหรัฐฯกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะลงเลือกตั้งไว้เพียง 3 ข้อเท่านั้น นั่นก็คือ ต้องเป็นพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด ต้องมีอายุไม่ต่ำว่า 35 ปี และมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐโดยถูกต้องตามกฎหมายไม่ต่ำกว่า 14 ปี

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Previous Article
Next Article